วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

** "14 สิ่งที่สุดในชีวิต"


ข้อมูลอ้างอิง : Fwd mail จาก srang_k
ที่มา.  dek-d.com
ภาพจาก. อินเทอร์เนต


ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ตัวเราเอง
ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอวดดี
การกระทำที่โง่เขลาที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกลวง
สิ่งที่แสนสาหัสที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอิจฉาริษยา
ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การยอมแพ้ตัวเอง
สิ่งที่เป็นอกุศลที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกตัวเอง
สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความถดถอยของตัวเอง
สิ่งที่น่าสรรเสริญที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอุตสาหะวิริยะ
ความล้มละลายที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความสิ้นหวัง
ทรัพย์สมบัติที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ สุขภาพที่สมบูรณ์
หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ หนี้บุญคุณ
ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การให้อภัยและความเมตตากรุณา
ข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การมองโลกในแง่ร้ายและไร้เหตุผล
สิ่งที่ทำให้อิ่มอกอิ่มใจที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การให้ทาน

อ่านแล้ว!! จี๊ดโดนใจกันเลยใช่ไหม
ข้อคิดดีๆ แบบนี้ก็อย่าลืมส่งต่อให้เพื่อนๆ อ่านกันด้วยนะจ๊ะ




ข้อมูลอ้างอิง : Fwd mail จาก srang_k
ที่มา.  dek-d.com
ภาพจาก. อินเทอร์เนต



วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

** จงอย่าให้ชีวิตเป็นเป้า.. ..แง่งาม ยามอกหัก



ขอบคุณ : forward mail
‎~ อย่าทำรอยยิ้มหล่นหายไป ~ ..เบ็ดเตล็ด ความรู้ และ กำลังใจ..
ที่มา.เฟสบุ๊ค  : เพียงพบพาน เพื่อผ่านภพ



ความอ้างว้างไม่ได้โหดร้ายอะไรนัก
มันก็แค่ช่วงเวลาที่เธอควรใช้มันให้กับตัวเอง
หลังจากที่วุ่นวายไปกับชีวิตคนอื่นมานานพอควร

ถ้าเธอเคยหกล้ม
เธอก็จะเดินอย่างระมัดระวังมากขึ้น
ไม่ใช่คิดจะไม่เดินอีกเลย

บางครั้งคนเรา
ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจ
และต้องยอมรับในการตัดสินใจของคนอื่น
ถึงมันจะไม่ดีกับเธอเลยก็ตาม
เพราะเราเลือกแต่เหตุการณ์นี้
ให้เกิดกับชีวิตเราไม่ได้เสมอไป

ความรักก็มีชีวิตเหมือนดอกไม้
และไม่มีแจกันใด
จะถนอมความงามของดอกไม้ไว้ได้ตลอดไปหรอก

ความเสียใจไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่หากเสียใจไม่จบสิ้น นั่นจึงแปลก

ในขณะที่โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์
มันก็ต้องไม่ลืมที่จะหมุนรอบตัวเอง
ในขณะที่เธอรักใคร
เธอก็ต้องไม่ลืมที่จะรักตัวเอง

หากคนเรามีความรักได้ครั้งเดียวในชีวิต
นั่นจึงควรร่ำร้องเมื่อรักได้สูญหาย
แต่ความจริงแล้ว
คนเรามีความรักได้หลายพันครั้งตลอดทั้งชีวิต

เมื่อเธอรู้สึกว่าตัวเองไม่เหลือใคร
นั่นคือสัญญาณเตือนว่า
เธอควรให้ความสำคัญกับตัวเองได้แล้ว

คนเราสามารถจำอะไรก็ได้
แต่เมื่อจำแล้ว
กลับไม่สามารถเลือกที่จะลืมบางส่วนของมันได้
แต่เลือกที่จะนึกถึงมันให้น้อยที่สุดได้

ไม่ว่าความรักจะทำให้วันนี้ของเธอปวดร้าวยังไง
แค่ครั้งหนึ่ง เธอเคยได้รักจากคนที่อยากรัก
เธอก็โชคดีมากแล้ว

สำหรับบางคน
ถ้าจะรัก ก็ยังไม่เจ็บ ถ้าเคยรัก ก็แค่เคยเจ็บ
แต่ถ้ายังรัก ก็จะยังเจ็บ

ขึ้นอยู่กับว่า เธออยากเป็นแค่คนที่เคยเจ็บ
หรืออยากเป็นคนที่ยังเจ็บอยู่ทุกวัน

เธอเคยฝืนใจรับใบปลิว
ที่แจกตามหน้าห้างสรรพสินค้า
เพราะเกรงใจคนแจกมันและ บางที
อาจมีคนรับความรักของเธอไป
เพราะเหตุผลอย่างเดียวกัน

สุดท้าย เขาก็ทิ้งมัน
เหมือนกับที่เธอทิ้งใบปลิวนั่นแหละ

คนบางคน
เป็นเพื่อนที่ดีได้ เป็นพี่ที่ดีได้ เป็นน้องที่ดีได้
แต่เป็นคนรักที่ดีไม่ได้
ก็ควรให้เขาเป็นในสิ่งที่เขาเป็นได้ และเป็นได้ดี

หลายๆสิ่งในโลก
ล้วนถูกสร้างมาให้มีด้านตรงข้าม
มันจึงต้องมีจุดผกผันแปรเปลี่ยน
ความรักก็มีจุดเปลี่ยนของมัน
จึงเป็นเรื่องจำเป็น ที่เธอต้องยอมรับมันให้ได้

แก้วกาแฟใบโปรด แตกไปเสียแล้ว
เก็บไว้ก็บาดมือ
ความรัก จากไปเสียเสียแล้ว
เก็บไว้ก็บาดใจ

สำหรับความรักที่ผ่านมา
ควรแยกให้ได้ว่า อะไรควรจำไว้ประทับใจ
อะไรควรจำไว้เป็นบทเรียน

ค่ำคืนแห่งความเงียบเหงา
ไม่ได้ยาวนานไปกว่าคืนไหนๆ หรอก
อีกไม่นานก็เช้า ชีวิตก็วุ่นวายเหมือนเดิมแล้ว

หนังสือเล่มไหนที่อ่านแล้วไม่ถูกใจ
ก็ไม่ต้องกลับไปอ่านรอบสอง
ความทรงจำที่นึกถึงแล้วเจ็บปวด
ก็อย่าไปนึกถึงมันเป็นครั้งที่สอง

เมื่ออ่อนแอจนถึงที่สุด
ความเข้มแข็งจะเข้ามาแทนที่

เมื่อเธออยากให้หัวใจมีความรัก
ก็ต้องยินยอมที่จะให้มันเจ็บปวด

เหมือนเด็กที่อยากจะเดิน
ก็ต้องยินยอมที่จะล้มลุกคลุกคลา

ความรู้สึกสูญเสีย ร้ายแรงเสมอ
สำหรับคนที่ไม่ยอมรับความจริง


ความเจ็บปวด
ไม่ได้ต้องการเวลาเพียงไม่กี่วันในการรักษา
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่า
เธอจะเลิกเจ็บปวดเมื่อไหร่

แต่มันอยู่ที่ว่า
เธอจะใช้ชีวิตในขณะที่ยังเจ็บปวดอย่างไรต่างหาก

คนที่ควรรัก อาจไม่ใช่คนที่เธอรัก
อาจไม่ใช่คนที่รักเธอ
อาจไม่ใช่คนที่รักกันมาก่อน
อาจไม่ใช่คนที่กำลังรักอยู่
อาจไม่ใช่คนที่คิดจะรัก
แต่คนที่ควรรัก
อาจเป็นคนที่เธอยังไม่เคยรักเลยก็ได้

ทำไมต้องเรียกร้องความรักจากคนๆเ ดียว
ในเมื่อเธอก็มีความรักจากคนรอบข้างมากมาย

ไม่มีความเจ็บปวดครั้งใด
ไม่ให้ประโยชน์กับชีวิต
ขึ้นอยู่กับว่า
เธอรู้จักที่จะใช้ความเจ็บปวดนั้นทำให้เธอเข้มแข็ง
หรือปล่อยให้มันทิ่มแทง จนเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า

การเปลี่ยนแปลง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นง่ายที่สุ
และยอมรับได้ยากที่สุด
แต่เมื่อเรายอมรับได้แล้ว
มันก็จะเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด

ความรักไม่ได้ทำร้ายใคร
แต่คนเรามักใช้มันทำร้ายตัวเอง

เด็กที่เพิ่งหกล้ม
อย่าไปถามเขาว่า
เจ็บมากมั้ย หายเจ็บหรือยัง
นั่นจะทำให้เขายิ่งร้องไห้

หัวใจที่เจ็บปวด
ก็อย่าไปถามซ้ำๆ ถึงความเจ็บนั้นเลย
ความเจ็บปวดที่ร้ายแรงที่สุด คือ
ความเจ็บปวดที่เธอเฝ้าคิดถึงแต่มันซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ถ้าเธอเคยล้ม
เธอก็จะเดินอย่างระมัดระวังมากขึ้น
นั่นเองคือเหตุผลว่า
ทำไมคนเราจึงต้องเจ็บปวดเสียบ้า

ถ้าความรักของเธอเหมือนดอกไม้
หัวใจเขา เหมือนทะเลทราย

คงเปล่าประโยชน์ ที่เธอจะปลูกดอกไม้ให้งดงามในทะเลทราย

ระหว่างการเดินทาง
หากมีเพื่อนร่วมทางสักคน
ก็นับว่าเป็นโชคดีของเธอแล้ว
และเมื่อเขาจำเป็นต้องแยกไป
เธอควรขอบคุณที่เขาร่วมทางมา
ไม่ใช่ตัดรอนต่อว่า ที่เขาแยกทางไป

ว่ากันว่า ช่วงชีวิตของคนเรามีจำกัด
ยิ่งใช้เวลาไปกับความเศร้าโศกนานเท่าไหร่
ก็จะเหลือช่วงเวลาที่ดี ลดน้อยลง

ขอบคุณ : forward mail
‎~ อย่าทำรอยยิ้มหล่นหายไป ~ ..เบ็ดเตล็ด ความรู้ และ กำลังใจ..


วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

** เหรียญในมือ


ที่มา.  forwardmail
ภาพจาก. อินเทอร์เนต

เคยได้ยินเรื่องอยู่เรื่องหนึ่ง... มีผู้ใหญ่เขาเล่นกับเด็ก

ผู้ใหญ่กำเหรียญอยู่ในมือ แล้วถามเด็กว่าอยากรู้ไหม “ในมือของท่านมีอะไร”
ถ้าอยากรู้ให้เขกพื้น 5 ที เด็กก็เขกด้วยความอยากรู้
ผู้ใหญ่แบมือให้ดู เด็กก็ได้พบว่าเป็นแค่เหรียญธรรมดาเหรียญหนึ่งเท่านั้น

ต่อมาผู้ใหญ่กำมืออีก แล้วถามอีกเหมือนเดิมว่าอยาก “รู้ไหมว่ามือท่านมีอะไร”
คราวนี้เด็กไม่สนใจ ไม่อยากรู้แล้วจริงๆ
คือเมื่อเด็กได้รู้แล้วว่าในมือผู้ใหญ่เป็นแค่เหรียญธรรมดาเท่านั้น
ไม่มีอะไรพิเศษเลย เขาก็เลยไม่สนใจอีก...

นี่แหละ คนเราก็เป็นแบบนี้ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา
ไขว่คว้าเพื่อให้ได้รับรู้ เมื่อเราได้รู้แล้วว่ามันคืออะไร มันเป็น ยังไง
เราก็ไม่สนใจมันอีก ถามว่าเหรียญในมือเปลี่ยนไปไหม ค่ามันน้อยลงไหม
เปล่าเลย ค่าของมันเท่าเดิม ยังคงเป็นเหรียญๆเดิม ทั้งก่อนและหลังที่เราเห็น
แต่ความรู้สึกของเราต่างหากล่ะที่เปลี่ยนไป
ก็เป็นเพราะความรู้สึกที่เอื้อมไม่ถึงไปไม่ถึงนั่นแหละที่ทำให้เราเห็นคุณค่าของ
สิ่งที่อยู่ไกล ต่อเมื่อได้สิ่งนั้นมาแล้วได้รู้จักแล้ว
เราก็ไม่รู้สึกเป็นพิเศษอีก

บางคนที่เราแอบประทับใจ หรือแอบปลื้มมานาน
พอได้รู้จักพูดคุยกันแค่ไม่กี่คำก็รู้แล้วว่าคนนี้ไม่ใช่
คิดอะไรไม่เหมือนกัน มองกันคนละด้าน...

บรรดาคนของสังคม เป็นขวัญใจของคนมากมาย เพราะดูดี มีอารมณ์ขัน
ทำให้ใครต่อใครพา กันปลื้มจนออกนอกหน้า แต่หากได้มานั่งจับเข่าคุยกันแล้ว
ถ้าเขาไม่ได้มีความคิดหรือความเป็นตัวของตัวเองที่โดดเด่น
เขาก็ แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ความคิดก็เหมือนคนอื่นๆ
ความรู้สึกประทับใจในตอนแรกก็กลายเป็นเฉยๆไป...

ในทางกลับกัน
บางครั้งกับคนที่เหมือนไม่มีอะไรน่าสนใจ หน้าตาธรรมดา มีชีวิตอย่างเรียบง่าย
แต่แค่ได้คุยกันครั้งเดียว กลับรู้สึกดี รู้สึกว่า คนนี้มีอะไรไม่ธรรมดา
เริ่มรู้สึกว่าน่าสนใจ และอยากเจอเขาอีกเรื่อยๆ ความดีในตัวต่างหากที่สำคัญ
เมื่อได้เรียนรู้กันและกันแล้ว ความน่ารัก ความมีน้ำใจ
ความเสียสละต่างหากที่จะทำ ให้ไม่รู้จักเบื่อ

สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่ทำให้อีกฝ่ายอยากค้นหา ติดตาม เห็นคุณค่า
และไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไป ไม่ใช่เพียงรูปลักษณ์ภายนอก
ที่เมื่อได้มาแล้วก็เท่านั้น เหมือนเดิม ไม่มีอะไรแปลกใหม่
ไม่มีอะไรให้น่าที่จะรัก น่าที่จะค้นหาอีก…

ในชีวิตหนึ่งของคนเราสามารถปิ๊งคนได้หลายคน ประทับใจใครได้หลายหน
แต่จะมีสักกี่คนที่ใช่ ที่ตรงกับเรา
ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าในชีวิตจะได้พบกับคนที่ "ใช่เลย" ไหม…
บางครั้งเราอาจกำลังแอบปลื้มคนๆหนึ่งที่เราเพิ่งได้รู้จัก
อยากคุยอยากเจอหน้าตลอดเวลา แต่พอเจอปัญหา มีเรื่องอยากเล่า
เรากลับรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนที่เราต้องการ
เรากลับเลือกที่จะคุยกับคนอีกคนที่เราสนิทมานาน
เพราะความรู้สึกมันบอกเองว่าคนๆ นี้แหละถึงจะเป็นคนที่เราสามารถคุยได้ทุกเรื่อง

เข้าใจเรา เขา...ก็ยังคงเป็นเขาอย่างที่แล้วๆมา ไม่มีอะไรหวือหวา
ทุกอย่างเป็นของมันอย่างนี้มานานจนกลายเป็นเรื่องธรรมดา
จนไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เราต้องการจริงๆ…
แปลก…คนที่ใกล้ชิดกับเราที่สุดมักถูกมองข้ามไปเสมอ…
คุณเคยปล่อยเพชรให้ผ่านไปไหม…หรือเคยคว้าเศษฝุ่น



วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

** ถ่านนาฬิกา...ความรัก



บ่อยครั้งที่ ความรัก ทำให้เราลืมไปในหลายๆ สิ่ง ลืมว่า...
เราเคยกินข้าวคนเดียว.... โดยไม่รู้สึกเหงา
เราถือกระเป๋าเองได้....โดยไม่รู้สึกหนัก
เคยเดินกลับบ้านคนเดียว....โดยไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องยาก

ยิ่งกับความรัก ที่คบกันเนิ่นนาน
ยิ่งเนิ่นนาน ความผูกพันก็ยิ่งมาก
เมื่อความผูกพันเริ่มมาก ชีวิตเราก็มีแต่ความเคยชิน

เคยชินที่จะกินข้าวกับเขา ดูหนังกับเขา
เดินกลับบ้านกับเขา โดยมีเขาเอื้อมมือมาถือกระเป๋าให้
ความรัก ไม่ได้ทำให้ผู้หญิงอ่อนแอลงหรอก
แต่ความรัก มักทำให้ผู้หญิงลืมการใช้ชีวิตคนเดียว



ไม่ต่างจากนาฬิกาแขวนผนัง ที่เดินบอกเวลาไปเรื่อยๆ
โดยลืมไปว่าที่นาฬิกาเดินได้นั้น เพราะมีถ่านให้พลังงานอยู่
ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ว่าถ่านจะหมด
เป็นไปได้....พอๆ กับความรักที่เคยมีมาจะหมดลง

ซึ่งถ้าวันที่ถ่านหมดมาถึงจริงๆ
ถึงแม้สองเข็มนาฬิกาจะหยุดเดิน แต่เชื่อไหมว่า....เวลายังเคลื่อนไป
เวลาบนโลกนี้ไม่ได้หยุดเหมือนสองเข็มนาฬิกา
ความรักที่หมดลงแล้วนั้น ก็เช่นกัน

ความรักหมด แต่ไม่ได้หมายความว่า 'ชีวิต' จะหมด
ชีวิตของเรา ยังก้าวเดินต่อไปได้เสมอ
อาจเหงาบ้าง ที่ต้องกลับมากินข้าวคนเดียว เดินคนเดียว

อาจเจ็บปวดบ้าง ที่เบอร์โทรศัพท์ที่คุ้นเคยไม่ปรากฏบนหน้าจอบ่อยๆ อีกแล้ว
แต่เชื่อไหมว่า ก่อนหน้าที่ไม่มีเขา เราก็ยังอยู่อย่างมีความสุขได้
หากชีวิตคือนาฬิกา และ เข็มสองเข็มคือความรัก
มันก็ยังมีโอกาสที่จะใส่ถ่านความรักก้อนใหม่อยู่ทุกเวลา และเข็มสองเข็มก็ยังมีโอกาสเริ่มเดินต่อไปอีกครั้งหนึ่ง....



ถึงแม้ถ่านนาฬิกาจะหมด แต่เราก็สามารถหาถ่านก้อนใหม่มาใส่
เพื่อให้นาฬิกาเรือนนี้เดินได้ต่อไป

ที่มา.     http://www.dek-d.com
ภาพจาก. อินเทอร์เนต

** เหตุผลที่ทุกคนมองข้ามไปเมื่อมีรัก....




คนบางคนเมื่อตอนเริ่มรัก...ก็สร้างลิมิตให้แก่กันจนสูงเกินไปมันเป็นเรื่องปกติที่ ตอนจีบแรกๆ? จาทุ่มเวลาทั้งหมดใส่ความตั้งใจ เพื่อที่จะได้เค้ามาครอบครองแต่พอเวลาผ่านไป...เมื่อคนทั้งสองคน? ได้มาแชร์ความรู้สึกกัน? ในคำจำกัดความที่เรียกว่าแฟนคนหลายคนเข้าใจความหมายของคำว่าแฟนผิดพลาดไป "แฟน" คือคนที่ทำให้เรารู้สึกได้ยิ้มได้? เมื่อคิดถึงเค้าทำให้เรามีความสุข? ที่จะอยู่กับเค้าคือคนที่ทำให้เราผ่อนคลายมากที่สุดคนที่ทำให้เราเป้นตัวของตัวเองมากที่สุด? เวลาอยุ่กับเค้าแต่คนทั่วไป?? ให้คำนิยามของแฟนผิดไปแฟนเราต้องเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็นทำในสิ่งที่เราอยากให้ทำเดินตามทางที่เรากำหนดให้เค้าด้วยความเข้าใจว่า? เค้ายอมเราเสมอแต่มันไม่ใช่? คนเรามีโลกส่วนตัวด้วยกันทุกคนยิ่งเราพยายามให้เค้าเป็นมากเท่าไรสิ่งที่เค้าให้กลับมาคือสิ่งตรงกันข้ามเสมอรัก... คือสิ่งที่ทำให้คน2คน มาเดินบนเส้นทางเดียวกันแล้วถ้าระหว่างทางที่เดิน? คนอีกคนได้แต่คอยสั่งให้เค้าเดินทางซ้าย เดินทางขวา?? ให้เค้าเดินตามคนเดินตาม เกิดเหนื่อยขึ้นมา
สุดท้ายคุณจะต้องเดินคนเดียว คนเป็นแฟนกัน? ควรที่จะเสมอภาคกันทั้งสองฝ่ายจับมือกันเดินไปด้วยกัน? ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งเดินนำ? ให้อีกคนเดินตาม การออกคำสั่ง คือสิ่งที่บั่นทอนความรู้สึกของคนที่ต้องทำตาม โปรดระลึกไว้เสมอว่า คนทุกคนในโลกไม่ชอบคำสั่งไม่ว่าเค้าหรือว่าคุณ





ภาพจาก. อินเทอร์เนต

วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

** บ่มเพาะพลังรัก




  เราสามารถเพาะบ่มพลังแห่งความรัก  ให้โอกาสความรักที่เป็นธรรมชาติในใจได้เปิดเผยตนเองออกมามากยิ่งขึ้นทุกวันๆ เป็นพลังความรักแท้ท่วมท้นออกมาจากใจส่วนลึก  จะช่วยให้บุคคลสามารถข้ามพ้นความยึดติดอัตตาของตนสู่ความรักอย่างไม่มีเงื่อนไขต่อทุกชีวิตเป็นความรักที่สละความเห็นแก่ตัว  สละความโกรธ  ขจัดเสียซึ่งความกลัว  เพื่อให้ความรักได้แผ่ขยายครอบคลุมทั้งโลกและจักรวาลจนเป็นความรักที่ไม่มีประมาณ

การจะตรวจสอบวัดระดับความรักในใจเราได้ว่ามีมากขึ้นเพียงใดให้ดูว่าเมื่อนั้นสามารถ
๑.     ถอดถอนอคติที่เคยมีกับผู้อื่น
๒.     ให้อภัยในความผิดพลาดพลั้งเผลอของผู้อื่นที่ต่างมีเช่นเดียวกับตัวเรา
๓.     เห็นใจและเข้าใจจิตใจของผู้อื่นมากขึ้น  เปิดใจยอมรับในความรู้สึกนึกคิดของคนอื่น
๔.     สายตาที่มองไปยังผู้อื่นเต็มไปด้วยความรัก และ ความเข้าใจ
๕.     มองเห็นในความดี  ความงดงามภายในจิตใจของผู้อื่นที่มีอยู่ เช่นเดียวกับเรา  ทำให้เกิดความเคารพในทุกชีวิตเช่นเดียวกับการเคารพตนเอง
๖.     ใช้ชีวิตอย่างอุทิศตนเพื่อประโยชน์สุขทั้งต่อตนเอง และ ผู้อื่น

ผมอยากจะเชิญชวนท่านผู้อ่านบ่มเพาะพลังความรักด้วยการภาวนาข้อความต่อไปนี้  ท่านอาจจะเขียนติดไว้ที่บ้าน  ที่ทำงาน  หรือ นำติดตัวไป  ภาวนาด้วยการตั้งความระลึกไว้ที่หัวใจของท่านเสมอๆ ดังนี้

“ขอให้ฉันได้จดจำการดำรงอยู่ในปัจจุบัน  ท่ามกลางการนั่ง
ลมหายใจเข้า – ออก ด้วยความสงบ
ขอให้ฉันได้เฝ้าดูชีวิตความเป็นไปภายใน  และยอมรับความรู้สึก
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้วยความยินดี
ขอให้ฉันได้จริงใจและมีความรักต่อตนเอง  และท้งมีความเคารพ
มองเห็นคุณค่าชีวิตของฉัน
ขอให้ฉันได้เรียนรู้การให้อภัยแก่ตนเอง  เพื่อปลดปล่อยความรู้สึกผิด
และการมองตนเองต่ำต้อย
ขอให้ฉันมีกำลังใจอย่างไม่มีประมาณ  เพื่อให้ฉันได้ก้าวพ้นจาก
ความเศร้า  ความกลัว  ความหวาดหวั่น
ขอให้ฉันได้ตระหนักรู้ขีดจำกัดของตนเอง  เพื่อละวางความคาดหวัง
กดดัน  และความวิตกต่ออนาคต
ขอให้ฉันได้มีความซื่อตรงต่อตนเอง  เพื่อให้ความคิด คำพูด
และการกระทำสอดคล้องกลมกลืน
ขอให้ฉันเป็นดั่งน้ำพุแห่งความสงบ  ความปีติสุข  หล่อเลี้ยงจิตใจฉัน
พ้นจากความฟุ้งซ่านกระวนกระวาย
ขอให้ฉันมีรอยยิ้ม และ ความอ่อนหวานให้กับตนเอง  เพื่อระลึกถึง
ความสุข  ความร่าเริง ความอ่อนโยน
ขอให้ฉันได้เป็นแสงสว่างแก่ตนเอง  เพื่อส่องสว่างทางแห่งความ
เข้าใจตนและผู้อื่น
ขอให้ฉันได้บรรลุถึง ธรรมชาติความรัก  มีความเต็มเปี่ยม
และพร้อมให้ความรักแก่ตัวฉันและผู้อื่น
และขอให้ความรักและสันติสุขภายในใจนี้  จงได้เผื่อแผ่แบ่งปัน
ไปสู่ทุกชีวิตโดยถ้วนทั่วกัน”


“ ความรักเพียงอย่างเดียว  เป็นแรงพลังสากลที่แทรกซึมไปในทุกสิ่ง
เราไม่สามารถครอบครองหรือควบคุมได้หากคุณต้องการรู้จักรักแท้
จงปล่อยวางเงื่อนไขทั้งหมดลง”

โดย. Deepak  Chopra.

ที่มา. โดย. รองศาสตราจารย์  นพ.ธวัชชัย  กฤษณะประกรกิจ
          นิตยสาร “ซีเคร็ต”  ฉบับที่ 65 หน้า 62