วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

รักหมดใจ…ใกล้หมดโปร


เรื่องรักมันก็ไม่ได้ต่างกับเรื่องอื่นๆ ที่ต้องมีขึ้น มีลง มีช่วงที่พีคจัด มีช่วงที่ดาวน์ลงมา สำหรับสาวๆ ที่ผ่านประสบการณ์รักมาบ้าง คงเข้าใจธรรมชาติของช่วงเวลานี้ดี เพราะพอเวลาผ่านไป อะไรๆ ก็เปลี่ยนแปลง จากที่เคยรักนัก รักหนา มาหา มารับ มาส่ง คุยกันวันละ 8 ชั่วโมง อยู่ดีๆ กลับหายหน้า ไม่เห็นกันซะงั้น แต่จะมีคนใหม่ก็ไม่ใช่ ทั้งเรื่องงาน เรื่องเรียน เรื่องอะไรๆ ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมาก แต่เขาทำตัวเปลี่ยนไปอย่างแรง
อืม...จุดนี้ที่เปลี่ยนไป คงเพราะใกล้หมดโปร!
รักของคุณมีโปร รึเปล่า?
ถ้าจะถามว่าคุณมีโปรโมชั่นรักไหม และโปรฯนั้นนานแค่ไหน อยากจะบอกว่าคงยากที่จะตีความเป็น 3 เดือน 7 เดือน หรือ 1 ปีได้หรอกค่ะ เพราะรักนั้นเป็นเรื่องอธิบายยาก แต่ละคู่ก็มีความแตกต่างที่เป็นตัวของตัวเองกัน Love style ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
บางคนรักน้อยๆ แต่รักนานๆ อันนี้ก็อยู่ได้นานหน่อย โปรฯ เค้าเป็นรายปี อันนี้ไม่ค่อยส่งผล บางคนรัก แบบมาไวไปเร็ว ว่าจะแต่งกันตั้งแต่คบได้แค่ 3 เดือน 7 เดือน อันนี้โปรฯ แรง แต่อายุมักจะไม่นาน เต็มที่สักปี ก็แทบหมดใจ
บางพวกเป็นแบบรักเติมเงิน คือเติมมั่ง ไม่เติมมั่ง รักกันเป็นพักๆ เลิกกันเป็นช่วงๆ แต่ก็ไม่หนีหายกันไปไหน รักแบบนี้เหมือนจะยาวนาน แต่ก็ไม่คงทน เพราะรักแบบขึ้นๆ ลงๆ เหลือเกิน เพราะความต้องการรักตรงกันเป็นช่วงๆ กั๊กกันไปกั๊กกันมา จนคนรอบข้างเพลียไปตามๆ กัน


รักขาลงจงทำ...
ใครๆ ก็คงไม่อยากอยู่ในช่วงรักขาลง แต่ถ้ามันตกลงไปในช่วงนี้แล้วล่ะ เราจะต้องทำอย่างไรดี ?
 ทำใจ
ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน เป็นเรื่องจริงที่สุดก็ว่าได้ เพราะฉะนั้น ทำใจก่อนเลยสาวๆ ขา เขาเปลี่ยนไปแย่ได้ สักวันขาก็ต้องเปลี่ยนมาดีได้ หรือถ้ากู่ไม่กลับจริงๆ ก็คงต้องปล่อยไปตามวัฎจักร
สิ่งหนึ่งที่อยากให้คิดคือ คุณรักเขาเพราะอะไร ลองทบทวนดู แล้วคุณอาจจะพบว่าคุณไม่ได้รักเขาที่ตัวตนจริงๆก็ได้ แต่เป็นเพราะอะไรล่ะ (คิดตรงๆ กับตัวเองเลยไม่ต้องอาย ไม่มีใครมาว่าคุณหรอก) เพราะเงิน เพราะโปรไฟล์ เพราะเหงาไม่มีใคร เพราะเขาเติมเต็มในเรื่องที่คุณขาดได้ หรือเพราะอะไรกันแน่ เมื่อคิดได้แล้วคุณคงได้คำตอบเอง
• ทำตัวให้ดูดี
ช่วงเวลานี้คุณจะได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น (เพราะแฟนห่างเหิน) ก็ใช้เวลานี้ให้เป็นประโยชน์ค่ะ หัดมองตัวเองบ้างอะไรบ้าง ดูแลตัวเองบ้างไหม บางคนบอกชั้นทำงานเช้าเลิกก็ดึก เหนื่อยจะตาย จะเอาเวลาที่ไหนไปแต่งตัวอีก
คุณขา...ผู้หญิงอย่าหยุดสวยค่ะ ผู้หญิงไม่สวยถ้าดูแลตัวเองดีๆ ก็สวยได้ จุดนี้ของย้ำ 2 รอบขีดเส้นใต้ 2 ทีว่าไม่ได้จะให้สวยเพื่อดึงแฟนกลับมาเป็นอย่างเก่า แต่อยากให้สวยเพื่อตัวคุณเองนั่นแหละค่า สวยเมื่อไหร่ ความมั่นใจมาเป็น 100 จริงไหมล่ะคะ?
 ทำชีวิตให้เหมือนเดิม
ชีวิตก่อนหน้าไม่มีเขา หรือรักเราหวานแหววเป็นอย่างไรยังจำได้ไหมคะ? ถ้ายังจำได้ ดึงเวลานั้นมาใช้อย่างมีค่าค่ะ คือเมื่อได้มีโอกาสอยู่กับแฟน ก็รักกันให้เหมือนช่วงจีบกันใหม่ๆ งี่เง่าให้น้อย ทะเลาะกันไม่ต้องบ่อย หวานให้มากๆ เอาใจให้เยอะๆ เรียกว่าถึงโปรจะใกล้หมด แต่ก็ขอใช้ให้คุ้มค่าหน่อยเถอะนะ
ส่วนเวลาไหนที่คุณแฟนไม่ว่างมาเจอ ก็คิดซะว่าเป็นช่วงพักของชีวิตรัก คิดซะว่าโสด (แค่คิดนะจ๊ะ) ดึงช่วงเวลานั้นกลับมา ยังจำได้ไหมคะว่าตอนโสดคุณทำอะไรแล้วสนุก เอามาใช้ในช่วงที่ไม่มีแฟนอยู่ด้วยสิคะ ที่สำคัญอย่าเอาชีวิตรักตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นเป็นอันขาด ถ้าไม่อยากจิตตก
แค่นี้คุณก็สามารถอยู่กับช่วงรักขาลงให้สนุกสนานได้ไม่ยาก ที่สำคัญอย่าเพียงแค่รอให้ทุกอย่างฟื้นคืนเท่านั้น แต่สิ่งที่คุณต้องทำคือต้องไม่ทำให้มันลดลงไปอีก ด้วยการเพิ่มการทะเลาะเบาะแว้ง หรือทำตัวว่อกแว่กกับหนุ่มอื่นๆ เป็นอันขาด เพราะว่ารักช่วงใกล้หมดโปรเนี่ย อ่อนไหวยิ่งกว่าหุ้นเสียอีก น้ำผึ้งหยดเดียวอาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ง่ายๆ หากอยากประคองรักไว้ ก็ขอให้เชื่อใจกันด้วยนะคะ


 ขอบคุณ.. ผู้หญิง สุขภาพ ความงาม ทรงผม แต่งตัว แฟชั่น sexy 
ทุกๆเรื่องที่คุณอยากรู้ http://women.sanook.com

รวบรวมเอาเรื่องราวความรัก.. เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ

โดยเฉพาะ ให้กำลังใจตัวเอง ในวันที่เหนื่อยล้า..เต็มทีแล้ว...













วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

ทำอย่างไรไม่ให้รักต้องช้ำซ้ำสอง


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          คนเรานั้นเมื่อผิดหวังกับการมีความรักและสร้างครอบครัวในครั้งแรกแล้ว จะยังประสบความสำเร็จกับความรักและการสร้างครอบครัวครั้งต่อ ๆ ไปได้หรือไม่? 

          คำถามนี้ถูกถามกับชาวอังกฤษ แม้แหล่งข่าวอย่างเดลิเมลจะไม่ได้บอกผลว่าคนส่วนใหญ่ตอบกันเช่นไร แต่ผลการสำรวจที่น่าตกใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ ก็คือ 45% ของคนที่แต่งงานกันครั้งแรกจบลงด้วยการหย่าร้าง และมันไม่ได้ดีขึ้นเลยเมื่อผ่านเข้าสู่การแต่งงานครั้งถัด ๆ ไป ซึ่ง 67% และ 73% ของผู้ที่แต่งงานครั้งที่สองและสามตามลำดับ ต่างก็จบด้วยลงด้วยการหย่าร้างเช่นกัน

          ซูซาน ควิลเลียน นักจิตวิทยาด้านความสัมพันธ์ กล่าวเกี่ยวกับเรื่องการเลิกราหย่าร้างที่เกิดขึ้นในคู่ที่ผ่านการแต่งงานมาแล้วมากกว่าหนึ่งครั้งว่า การได้เลิกราก้าวออกมาจากชีวิตใครแล้วครั้งหนึ่ง จะทำให้การเลิกราครั้งต่อไปเป็นไปได้ง่ายขึ้น หรือถ้าคุณมีความรู้สึกหวาดหวั่นติดมาจากความรักครั้งที่แล้ว ก็สามารถทำให้รักครั้งนี้ของคุณกระท่อนกระแท่นได้ และประการสุดท้ายคือ หากไม่ได้ให้เวลาอย่างเพียงพอในการรักษาเยียวยา ฟื้นฟูจิตใจที่บอบช้ำจากเดิมให้หายดีเสียก่อน โอกาสที่จะเลือกคนพลาดอีกในความสัมพันธ์ครั้งใหม่ก็มีสูง ทั้งนี้ แม้ว่าคุณจะไม่เข้าข่ายใด ๆ ในสามข้อที่กล่าวมานี้เลย แต่คุณจะแน่ใจได้อย่างไรล่ะ ว่าคู่รักของคุณก็เป็นเช่นเดียวกัน ?

          เพื่อหาทางออกให้กับปัญหาที่สุดแสนจะน่าเป็นห่วง และเป็นที่วิตกกังวลแก่คู่รักมือเก่าที่กำลังมีรักครั้งใหม่ ลินดา เคลลี่ ผู้เขียนบทความชิ้นนี้และคอลัมนิสต์ประจำเรื่องผู้หญิงของเดลิเมล ผู้ผ่านการแต่งงานและหย่าร้างมาแล้วสองครั้ง ปัจจุบันกำลังแก้ตัวใหม่และไปได้สวยกับคนรักในตอนนี้มาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว จึงมาแชร์ประสบการณ์ตรงของเธอว่า ควรจะทำอย่างไรเพื่อรักษาชีวิตคู่ไว้ไม่ให้อับปางอีกซ้ำสอง (หรือซ้ำสาม) และนี่คือสิ่งที่เธอได้แชร์ให้เราฟังกันค่ะ

 1. โลกไม่ได้หมุนรอบตัว "ฉัน" คนเดียว

          ชีวิตคู่ครั้งแรกของเธอดูไม่ค่อยเป็นที่ปรารถนาสำหรับคนรักกันเท่าไหร่นัก เมื่อเธอและสามีต้องแยกกันอยู่เนื่องด้วยหน้าที่การงาน เขาทำงานอยู่ไกลและกลับบ้านแค่ช่วงสุดสัปดาห์ ในขณะที่เธออยู่บ้านและเลี้ยงลูกชาย แฟนของเธอโทรกลับมาที่บ้านบ่อยครั้งในช่วงเย็น เพื่อจะได้ยินเสียงภรรยาและขอคุยกับลูกชายที่เขารัก แต่ลินดามักยุ่งและเหนื่อยกับงานบ้านเกินกว่าที่จะตั้งใจฟังจนจบว่าเขาต้องการอะไร คิดเพียงว่าแค่อดทนรอจนถึงวันหยุดเท่านั้น แล้วครอบครัวก็จะสมบูรณ์พร้อมหน้า โดยละเลยเรื่องความรู้สึกในแต่ละวันของเขาไปเสียสิ้น นี่เป็นจุดเริ่มต้นของรอยร้าวที่เกิดขึ้นกับชีวิตคู่ครั้งแรกของเธอ และสอนให้เธอจดจำมาจนบัดนี้ว่า "ให้ฟังความต้องการของคนอื่นบ้าง อย่าเหมาว่าที่ตัวเองคิดนั้นดีที่สุดแล้ว เพราะโลกไม่ได้หมุนรอบตัวเราแค่คนเดียว"

 2. เรื่องในห้องน้ำเป็นเรื่องส่วนตัวเสมอ

          ก่อนหน้าที่จะมาอยู่ร่วมกัน คุณเคยรู้สึกว่าเรื่องในห้องน้ำมันเป็นเรื่องน่าอายและควรเป็นเรื่องมิดชิดเพียงใด หลังแต่งงานก็ควรจะทำให้มันเป็นเรื่องลับ ๆ เอาไว้อย่างนั้นเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแคะขี้ฟัน หรือบ้วนน้ำลายทิ้งในอ่างล้างหน้า ทุกครั้งจำเป็นราดน้ำตาม การโกนขนรักแร้ ขนหน้าแข้ง เล็มแต่งขนในที่ลับ ก็ต้องจัดการกำจัดเศษขนที่ร่วงหล่นเหล่านั้นให้เกลี้ยง อย่าให้หลงเหลือติดตามก้อนสบู่ หรือคาอยู่ที่ฝาทางระบายน้ำ ฯลฯ ทำกิจกรรมอันใดปิดประตูล็อคให้มิดชิด และจัดการให้เรียบร้อยทุกครั้งก่อนออกจากห้องน้ำ คงไม่ดีหากให้คู่รักที่แม้จะขึ้นชื่อว่าสนิทชิดเชื้อและเป็นกันเองมากที่สุด ได้มาเห็นเข้า เชื่อเถอะว่ามันทำให้พลังรักดับมอดจนถึงขั้นติดลบเลยทีเดียว

 3. เซ็กส์...ช่วยปลุกความรักได้

          ก่อนหน้านี้เธอจัดเรื่องราวความสำคัญต่าง ๆ ในความสัมพันธ์ระหว่างคนรัก และให้ "เซ็กส์" ตกไปอยู่ในอันดับท้าย ๆ ของตาราง ลินดาไม่เชื่อว่าแค่เรื่องทางกายจะประสานใจให้แน่นเหนียวได้ ยิ่งอายุเริ่มมากแล้วเซ็กส์ยิ่งไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่เวลาที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่าเธอคิดผิดไปถนัด จริงอยู่ว่าเรื่องความรักเป็นเรื่องของความรู้สึก แต่มันก็สามารถกระชับความสัมพันธ์และถ่ายทอดความรู้สึกแก่กันได้ เช่นเดียวกับการจูบ การโอบกอด การสัมผัส สิ่งเหล่านี้ล้วนขาดไม่ได้ในคนที่รักกัน

 4. จู้จี้ขี้บ่น ตัวสร้างรอยร้าวชั้นดี

          ก่อนหน้านี้เธอเคยบ่นไม่ขาดปากเมื่อสามีซื้อมะเขือเทศผิดชนิดมาให้ เธอบ่นอุบเมื่อได้รับของขวัญเป็นต่างหูสีเงิน แทนที่จะเป็นสีทองที่เข้ากับผิวของเธอมากกว่า แต่เมื่อเวลาผ่านไปเธอก็ได้เรียนรู้ว่าการเลือกที่จะเงียบ (แม้จะไม่ถูกใจ) แล้วกล่าวขอบคุณจะดีกว่า การทำตัวบ่นจุกจิกทุกเรื่องที่ไม่ถูกใจจะพาลให้เขาไม่อยากทำอะไรให้สักอย่าง และไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคุณอีกเลย

 5. อย่าให้เวลากับตัวเองมากไปนัก

          ลินดาชอบใช้เวลาในโลกของตัวเอง เธอมีกลุ่มเพื่อนของเธอ มีกิจกรรมที่เธอรักจะทำ และมีคืนปาร์ตี้สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ แต่บางครั้งเธอก็ลืมไปว่าเธอน่าจะให้เวลากับคนรักด้วยเช่นกัน เธอเคยคิดว่าการได้อยู่ห่างกันบ้างจะทำให้คิดถึงกันมากขึ้น และทำให้ความรักยังสดใหม่กระปรี้ประเปร่าอยู่เสมอ แต่ดูเหมือนเธอจะคิดผิด เธอเดินออกมาใช้เวลากับตัวเองมากเกิน กว่าเธอจะเดินกลับไป เขาก็ตัดสินใจไปเสียแล้ว การใช้เวลาด้วยกันน้อยลงอาจเป็นเหตุผลที่ใช้เพื่อบอกว่าสร้างพื้นที่ส่วนตัวแก่กันและกัน แต่ก็ต้องระวังว่าที่ว่างนั้น มันเป็นแค่ช่องเล็ก ๆ หรือว่าเป็นหลุมขนาดใหญ่กันแน่

 6. เรื่องเงินก็สำคัญ

          ใครว่ารักกันแล้วเรื่องเงินไม่สำคัญนั้น ไม่จริง ไลฟ์สไตล์การใช้เงินของแต่ละฝ่ายมีส่วนทำให้ความรักนั้นมั่นคงหรือสั่นคลอนได้ กับรักครั้งก่อน ๆ เมื่อเทียบกับคนรักแล้วลินดากลายเป็นคนประหยัดไปถนัดตา เมื่อสามีควักบัตรเครดิตออกจ่ายโดยยังไม่ทันดูบิลด้วยซ้ำว่าราคามันมากน้อยขนาดไหน เมื่อถึงวิกฤติที่เงินเริ่มมีใช้ไม่คล่อง มันก็กลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอกับสามีเก่าเลิกกัน ส่วนกับคนใหม่นั้น เขาเป็นคนที่ประหยัดกว่าเธอเสียอีก แต่อย่างไรก็ดีเธอกับเขาแยกกระเป๋าสตางค์กัน และต่างคนต่างพยายามทำความเข้าใจพฤติกรรมการใช้เงินของกันและกัน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นทีเดียวสำหรับคนรัก โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่ชอบช้อปปิ้ง

 7. การพูดคุย สิ่งสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ราบรื่น

          แต่ก่อนลินดาเป็นคนพูดน้อย แต่คนรักปัจจุบันของเธอเป็นคนช่างพูดทีเดียว และมักกระตุ้นให้เธอได้คุยโต้ตอบด้วยการซักถามความคิดเห็น จึงได้สนทนาแลกเปลี่ยนความรู้กันอยู่บ่อย ๆ และต่างคนต่างก็รู้สึกสนุกที่ได้ฟังความเห็นของอีกฝ่ายแม้ว่ามันจะไม่เหมือนกับที่ตัวเองคิดเอาไว้ก็ตาม ด้วยการพูดคุยเช่นนี้ทำให้เธอและเขาค่อย ๆ เรียนรู้กันไปอย่างลื่นไหลเป็นธรรมชาติ และรู้ว่าควรจะปรับตัวเข้าหากันในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างไร

          ทุก ๆ สิ่งที่ลินดาได้เรียนรู้มาตลอดความสัมพันธ์รัก ๆ ล่ม ๆ 2 ครั้ง และกับความรักครั้งปัจจุบัน ทำให้เธอรู้ว่า มันไม่เคยสายที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่เรื่องจะแย่ทันทีที่คิดให้อีกคนเปลี่ยนแปลงเพื่อเธอ และมันทำให้รักครั้งปัจจุบันของเธอแข็งแรงขึ้นมาก แม้ไม่กล้าคาดหวังว่ารักครั้งนี้ของเธอจะไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ แต่เธอก็มั่นใจว่ามันดีกว่าครั้งก่อน ๆ และก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ เลยล่ะ 

          คนที่เคยอกหักมาและได้พบรักใหม่ลองเรียนรู้นำวิธีเหล่านี้ไปใช้ในการประคับประคองความรัก ส่วนคนที่เพิ่งจะเริ่มรักครั้งแรกก็เอาไปใช้ได้ไม่เสียหาย ไม่แน่ว่าอาจจะไม่ต้องเริ่มต้นรักครั้งใหม่อีกเลยก็ได้นะ ;)

ความรัก.. กำลังใจ